หลักการใช้ in, on, at ในภาษาอังกฤษอย่างไรไม่ให้พลาด
In, on, at คือคำบุพบท (preposition) ซึ่งนอกจากจะใช้บอกสถานที่ เรายังใช้ระบุวัน และเวลาได้ด้วย มีหลักการใช้ที่ง่ายมากๆ ดังนี้ค่ะIn ใช้บอกช่วงเวลาหรือสถานที่แบบกว้างมากๆ เช่น
- ใช้ระบุเวลาในระดับปี I was born in 1990.
- ระบุฤดูกาล In the summer, I love to go to the beach.
- ระบุเดือน My final exam is in October.
- ระบุประเทศ My parents are in Japan at the moment.
- ระบุชื่อเมือง I bought this bag in New York City.
- ระบุช่วงเวลาของวัน My friend runs 10 km in the morning every day. ***ยกเว้น ตอนกลางคืน จะใช้ at night***
On ใช้ระบุเวลาและสถานที่ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ในระดับวัน, ชื่อถนน, ชั้นของตึก เช่น
- ระบุวัน I was born on Monday 23th July 1984.
- ระบุชื่อถนน Jack’s house is on Sukhumvit 39 Road. สังเกตว่า การบอกถนนยังกว้างๆ อยู่ ถ้าจะให้ไปบ้านแจ๊คจริงๆ ก็คงยังไปไม่ถูก เพราะรู้แค่ว่าอยู่ที่ถนนสุขุมวิท
- ระบุชั้นของตึก Ajarn Mark’s office is on the 9th floor, Chang Building.
At ใช้เมื่อต้องการระบุเวลา และสถานที่แบบเป๊ะๆ เฉพาะเจาะจงที่สุด หายังไงก็เจอ นัดยังไงก็ไม่มีพลาด เช่น
- ระบุเวลา See you tomorrow at 8.00 a.m. เจอกันพรุ่งนี้ แปดโมง The University Sports Day starts at 3.00 p.m. on 1st December. กีฬามหาวิทยาลัยเริ่มตอนบ่าย 3 โมง วันที่ 1 ธันวาคม
- ระบุสถานที่ Jack’s house is at 55/60 Soi Sukhunvit 39. คราวนี้ไปบ้านแจ๊คถูกแน่นอน เพราะรู้เลขที่บ้าน
ทริคในการจำที่พี่อยากแนะนำ คือ ท่องในใจดังๆ ว่า “in , on , at กว้าง แคบ เป๊ะ”
เรามาลองทดสอบกันดีกว่าว่าทริคนี้ได้ผลหรือไม่ ลองเติม Preposition in, on, at ลงในประโยคด้านล่างนี้ดูนะคะ
“This year, the University Sports Day will be held ……..1st December……..3.00 p.m. ……….the Surakit Stadium ……..the 3rd floor.”
เข้าใจขึ้นเยอะเลยค่ะ สามารถนำไปใช้ได้ถูกต้อง
ตอบลบ